เพิ่มความเร็วในการผลิตเมื่อทราบปริมาณการผลิต ธุรกิจเดินหน้าไม่สะดุด
เมื่อคุณไปซื้อของตามห้างในช่วงเวลาปกติที่ไม่มีคน คุณก็สามารถชำระเงินได้ตามปกติ สะดวกรวดเร็ว แต่หากเป็นช่วงที่คนเยอะ คุณก็ต้องต่อแถวซึ่งมันทำให้คุณต้องเสียเวลาเพิ่มขึ้น เจ้าของห้างที่มีประสบการณ์สูง ๆ จะแก้ปัญหาด้วยการเพิ่มช่องทางการชำระเงินเพื่อลดระยะเวลาในการรอของลูกค้า ลูกค้าก็รู้สึกดีและอยากกลับมาใช้บริการอีก แต่หากไม่แก้ปัญหา คิดว่าเป็นเรื่องปกติ ลูกค้าจะเกิดการเปรียบเทียบทันทีหากมีธุรกิจเดียวกันให้เลือกใช้บริการแต่อำนวยความสะดวกได้ดีกว่า ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเครื่องพันฟิล์มยืดเองก็เช่นกัน หากคุณไม่มีความยืดหยุ่นในการทำงาน ทำให้งานล่าช้าไปลูกค้าย่อมไม่ปลื้มเป็นธรรมดา
การประเมินกำลังการผลิตไม่ได้มองว่าแต่ละปีคุณจะผลิตสินค้าได้จำนวนมากเท่าใดแล้วนำปริมาณสินค้านั้นหารด้วยกำลังผลิตของเครื่องพันฟิล์มยืดออกมาเป็นจำนวนเครื่องแล้วก็ตัดสินใจดำเนินการใช้งานตามนั้น เป็นการวางแผนการทำงานที่หยาบเกินไป คุณต้องมีข้อมูลแม้กระทั่งว่าในช่วงใดที่มีกำลังการผลิตโหลดอยู่เป็นจำนวนมากทำให้เกิดการส่งงานล่าช้า ช้ากว่าปกติก็ถือว่าช้าแล้วห้ามมองข้ามเด็ดขาด จากนั้นจึงประเมินดูว่าคุณจำเป็นต้องใช้เดินเครื่องเพิ่มอีกเท่าใดจึงจะทันต่อปริมาณงาน ซึ่งหากไม่โหลดมากก็เพียงแค่เพิ่มจำนวนการทำงานของเครื่องพันฟิล์มยืด หรือเพิ่มชั่วโมงการทำงานของเครื่องอย่างนี้เป็นต้น แต่หากสินค้ามีการโหลดมาก หรือบางครั้งมีออเดอร์แบบฉับพลัน ในปริมาณที่มาก ๆ คุณก็คงอาจต้องมองหาเครื่องรุ่นอื่นสำรองไว้ทำงานกันแล้ว
เครื่องพันฟิล์มยืดแบบกึ่งอัตโนมัติมีอัตราการทำงานในการแพ็คสินค้าอยู่ที่ 15 – 20 พาเลตต่อชั่วโมง ในขณะที่เครื่องพันฟิล์มยืดแบบอัตโนมัติความเร็วสูงสามารถแพ็คสินค้าได้มากถึงชั่วโมงละ 200 พาเลตเลยทีเดียว การทำงานของเครื่องแบบอัตโนมัตินั้นคุณสามารถสั่งการได้ด้วยรีโมทคอนโทรลเลอร์หรือสามารถควบคุมกับระบบ wifi ก็ได้ โดยมีการเพิ่มระบบของสายพานลำเลียงเข้ากับตัวเครื่องพันฟิล์มเพื่อลดระยะเวลาในการลำเลียงสินค้าเข้าออกด้วยแรงงานคน ซึ่งอัตราการทำงานที่มากขึ้นย่อมต้องใช้จำนวนคนเพิ่มมากขึ้นอีกนิดเพื่อให้ทันต่อการทำงานของเครื่อง ปัญหาที่อาจตามมาได้ก็คือเวลาที่สูญเสียไปจากแรงงานที่มากระจุกตัวกันที่เครื่องนั่นแหละ จึงควรเพิ่มระบบสายพานลำเลียงเข้าและออกแทนเพื่อให้สินค้ามีความต่อเนื่องในการแพ็คและลำเลียงไปจัดเก็บ ซึ่งเมื่อมองในเรื่องของราคาก็อาจแพงกว่าแต่ถ้ามองในแง่ของธุรกิจและการรักษาความเชื่อมั่นของลูกค้าที่อาจมีการผูกสัญญากับคุณเป็นปี 5 ปี หรือ 10 ปี มันก็คุ้มค่าน่าลงทุนเลยทีเดียว เมื่อปริมาณการผลิตมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นก็สามารถตัดสินใจเลือกใช้เครื่องพันฟิล์มยืดแบบอัตโนมัติแทนได้แล้ว
